หนองหานนี้มีเรื่องราวมาจากนิทานพื้นเมืองของชาวอีสาน เรียกว่า " หนังสือผูก " เรื่องผาแดงนางไอ่ กล่าวถึง ความเป็นมา
ของหนองหานที่ลือชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำอันกว้างใหญ่และลึกมาแต่ครั้งโบราณกาล ทั้งยังเป็นห้วงน้ำอันน่าเกรงขามน่าสะพรึงกลัวยิ่งนักเป็นแหล่ง น้ำที่เคยมีจระเข้ชุกชุมที่สุด คำสันนิษฐานจากคำว่า " ชติตานคร " กับคำว่า " หนองหาน " เมืองชติตานครนี้ได้ถูกถล่มลงเป็นห่วงน้ำที่แจ้งไว้
ในนิทาน ต่อมาจึงเรียกห้วงน้ำนั้นว่า " ห้วยหาน " คำเดิมคงจะเรียกว่า " ระหาร " ก็อาจจะเป็นได้และหนองหานแห่งนี้จึงกลายเป็นต้นกำเนิด
" ลำน้ำปาว " ซึ่งจะไหลลงไปถูกกักเก็บไว้ที่เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ แล้วไหลลงไปกินพื้นที่หลายจังหวัดลงสู่น้ำมูล น้ำชี ต่อไป
ตามคำบอกกล่าวของคนโบราณที่ได้เล่าสืบทอดกันมาว่า หนองหานนี้มีส่วนที่ลึกที่สุดนั้นอยู่ตรงกึ่งกลางของหนองหานคนชอบ
เรียกตอนที่ลึกนี้ว่า " อ่างหลวง " ใกล้บริเวณอ่างหลวงขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเล็กน้อยจะมีเกาะอยู่เกาะหนึ่งมีพื้นที่พอที่จะสร้างวัด
ได้หนึ่งแห่งเรียกเกาะนี้ว่า " ดอนหลวง " คำว่า " หลวง " หมายความว่า " ใหญ่ " เมืองใดหรือจุดใดที่เป็นวัด หรือมีพระสถูป โบสถ์ กู่ หรือสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาแล้ว จะได้รับการยกเว้นไม่ถล่ม เช่น " วัดที่เกาะดอนหลวง " วัดหัวดอนคง " หลวงปู่ก่ำ " " ก ู่"
ที่อำเภอกู่แก้ว พระธาตุบ้านดอนแก้ว ( เกาะแก้ว ) วัดสมอลาย ( บ้านมอ ) และที่สุดก็คือ " วัดมหาธาตุเทพจินดาบ้านเดียม " ซึ่งอยู่ริมฝั่ง
หนองหานบริเวณเหล่านี้ไม่ได้กินเนื้อกระรอกเลยไม่ถูกทำลาย เพราะสถานที่ที่เป็นวัดคงไม่ได้กินเนื้อกระรอกเพราะพระจำศีลอยู่วัดเมืองแม่
หม้าย ( ดอนแก้ว ) สถานที่สองแห่งนี้จึงได้รับการยกเว้นจากพญานาค แสดงให้เห็นว่า สุทโธนาคนี้ก็มีความเป็นธรรมมากทีเดียว
Wednesday, February 10, 2010
ตำนานหนองหานกุมภวาปี
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment